วันนี้ CCTMED.com จะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่างหน้ากากอนามัยทางการแพทย์กับหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ปัจจุบันหน้ากากอนามัยถือเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดที่เราจะต้องมีเพราะด้วยสถานการณ์โรคระบาดอย่างโควิด-19 ที่ทำให้มนุษย์โลกต้องต่อสู้กับความยากลำบากนี้ เพราะเป็นโรคระบาดที่ได้คร่าชีวิตคนนับไม่ถ้วนและสถานการณ์การตอนนี้ก็ยังน่าเป็นห่วง เพราะโรคโควิด ได้เกิดการขยายสายะพันธุ์ที่หลากหลายออกไปอีก ทำให้เราจะต้องดูแลรักษาตนเองเบื้องต้น เพื่อป้องกันโรคติดต่อชนิดนี้ ที่ร้ายแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ดังนั้น หน้ากากอนามัยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นกับเรามากๆ เลย แต่การที่เราจะเลือกใช้หน้ากากอนามัย เราจะต้องมีความเข้าใจถึงการใช้งานของหน้ากากอนามัยกันก่อน ซึ่งวันนี้เราจะมาหาความแตกต่างของหน้ากากทางการแพทย์และหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา
- บทความที่เกี่ยวข้อง หน้ากากอนามัยมีความสำคัญอย่างไรต่อการป้องกันไวรัสโควิท-19
- บทความที่เกี่ยวข้อง
- บทความที่เกี่ยวข้อง
หน้ากากอนามัยคืออะไร
หน้ากากอนามัย (อังกฤษ: surgical mask) ตั้งใจให้วิชาชีพสุขภาพสวมใส่ระหว่างวิธีดำเนินการทางการแพทย์ ออกแบบมาเพื่อป้องกันการติดเชื้อในผู้ป่วยและบุคลากรที่ทำการรักษาโดยดักจับแบคทีเรียที่ติดมากับละอองฝอยเหลวและละอองลอยจากปากและจมูกของผู้สวม ทั้งนี้ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันผู้สวมใส่จากการสูดแบคทีเรียหรือไวรัสที่มาทางอากาศเพราะมีขนาดอนุภาคเล็กเกิน สำหรับโรคติดเชื้อบางชนิดเช่นไข้หวัดใหญ่ ดูเหมือนว่าหน้ากากอนามัยมีประสิทธิภาพพอ ๆ กับ หน้ากากเอ็น95 หรือ FFP อย่างไรก็ดี หน้ากากประเภท respirator จะให้การป้องกันที่ดีกว่าในการทดลองห้องปฏิบัติการ เนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำ รูปทรงและการผนึกที่แน่นหนาช่วงปีพ.ศ. 2563 เป็นที่นิยมมากเนื่องจากมีไวรัส COVID-19 อ้างอิงจาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0
%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2
หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เป็นแบบไหน
เรามาดูในส่วนของหน้ากากทางการแพทย์กันก่อน ว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งหน้ากากทางการแพทย์จะเป็นหน้ากากที่สามารถให้ใส่เพื่อป้องกันโรคได้และนอกจากนี้ก็ยังใช้ใส่เพื่อควบคุมและป้องกันฝุ่นละอองได้เช่นกัน นอกจากนี้ หน้ากากทางการแพทย์ยังเป็นหน้ากากที่สามารถป้องกันความชื้น ละอองฝอยและกันน้ำได้อีกด้วย เนื่องจากหน้ากากทางการแพทย์จะมีรูที่เล็กมากๆ ขนาด 3-5 ไมครอน และที่สำคัญเลยคือ หน้ากากทางการแพทย์จะเป็นหน้ากากที่มีสีไม่เท่ากัน ด้านหนึ่งจะมีสีเข้ม หน้าหนึ่งจะมีสีอ่อน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสีเขียว หรือสีฟ้า ต่างก็เป็นหน้ากากที่ใช้สำหรับป้องกันละอองฝอยได้เป็นอย่างดี
หน้ากากอนามัยธรรมดาคืออะไรเป็นแบบไหน
ในส่วนของหน้ากากอนามัยแบบธรรมดากันบ้าง ว่ามันเป็นแบบไหน ซึ่งหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาจะเป็นหน้ากากที่ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถป้องกันฝุ่นละอองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นชนิดใดก็ตาม รวมไปถึงฝุ่น PM2.5 แต่สำหรับในเรื่องของการป้องกันละอองฝอยที่มีอนุภาคเล็กๆ ถือว่า อาจจะป้องกันได้ไม่ดีเท่าหน้ากากทางการแพทย์ และที่สำคัญคือ หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาจะเป็นหน้ากากที่ไม่กันน้ำ ไม่กันความชื้นสักเท่าไหร่
ความแตกต่างของหน้ากากอนามัยทั้งสองแบบ
เรามาดูในส่วนของความแตกต่างของหน้ากากทั้ง 2 แบบ กันดีกว่า ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจและพิจารณาสำหรับการเลือกซื้อและเลือกใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคและฝุ่นละออง
- การป้องกันฝุ่นและละอองฝอย
สำหรับหน้ากากทางการแพทย์เป็นหน้ากากที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อการใช้งานทางการแพทย์ ดังนั้น ในเรื่องของการป้องกันฝุ่นและละอองฝอยต่างๆ ย่อมป้องกันได้กว่า หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ซึ่งหน้ากากอนามัยบางชนิด ก็สามารถป้องกันได้แค่ฝุ่นเท่านั้น อาจไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้เท่าที่ควร ดังนั้น ก่อนซ้ำ ผู้ซื้อเองอาจจะต้องอ่านข้างกล่องก่อนว่า เป็นหน้ากากแบบไหน - สีสัน
หน้ากากทางการแพทย์ ส่วนใหญ่ จะมีสีทั้งหมด 2 สี ด้วยกัน คือ สีฟ้าและสีเขียว ซึ่งแตกต่างจากหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ที่จะทำสีสันออกมาหลากหลาย เช่น สีเหลือง สีดำ สีขาว หรือรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการประสิทธิภาพการใช้งานอาจไม่ดีเท่าหน้ากากทางการแพทย์ แต่ก็สามารถใส่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่นละอองและเชื้อโรคต่อกันได้ดีเช่นกัน - การป้องกันน้ำและความชื้น
หน้ากากทางการแพทย์ ส่วนใหญ่ จะมีสีทั้งหมด 2 สี ด้วยกัน คือ สีฟ้าและสีเขียว ซึ่งแตกต่างจากหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ที่จะทำสีสันออกมาหลากหลาย เช่น สีเหลือง สีดำ สีขาว หรือรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการประสิทธิภาพการใช้งานอาจไม่ดีเท่าหน้ากากทางการแพทย์ แต่ก็สามารถใส่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่นละอองและเชื้อโรคต่อกันได้ดีเช่นกัน
ความสำคัญของหน้ากากอนามัยที่เราทุกคนควรรู้
เรามาดูกันว่า ทำไมเราจะต้องใส่หน้ากากอนามัย กันด้วย แล้วมันสามารถป้องกันอะไรให้เราได้บ้าง เพราะทุกวันนี้ หน้ากากอนามัยก็เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว เพราะขาดไม่ได้เลยจริงๆ
- การป้องกันโรคติดต่อ
ถึงแม้ว่าการสวมหน้ากากอนามัยจะไม่สามารถหยุดโรคให้หายขาดได้ เพราะเราจะต้องใช้ยาเพื่อการหยุดโรค แต่การที่เราทุกคนสวมหน้ากากอนามัย มันสามารถช่วยหยุดการแพร่กระจายของโรคโควิดและโรคติดต่ออื่นๆ จากคนหนึ่ง สู่อีกหลายๆ คนได้มากเลยทีเดียว ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยก็ป้องกันไว่ - การหยุดการแพร่กระจาย
แม้ว่าผู้ที่สวมใส่หน้ากากอนามัยจะเป็นโรคโควิดก็ตาม แต่การสวมหน้ากากอนามัย มันก็สามารถป้องกันผู้อื่นได้ และไม่ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังคนอื่นๆ ซึ่งมันก็เป็นการช่วยหยุดการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้างได้ หลังจากนี้แล้ว การรักษาก็จะทำการรักษาที่ตัวบุคคล ซึ่งมันก็ดีกว่าที่จะต้องรักษาอีกหลายๆ คนพร้อมๆ กัน เพราะเชื้อยังแพร่กระจายอยู่ - การป้องกันฝุ่นละออง
หน้ากากอนามัยสมัยนี้ มักจะผลิตขึ้นเพื่อป้องกันฝุ่นละอองและละอองฝอยไปพร้อมๆ กัน ทำให้ผู้สวมใส่จะได้รับความปลอดภัยจากฝุ่นควันและยังได้รับความปลอดภัยจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โคโรน่าอีกด้วย ถือว่าเป็นการป้องกันที่ได้ทั้ง 2 อย่างพร้อมๆ กัน
นอกจากการที่เราจะเลือกซื้อหน้ากากอนามัยที่เหมาะกับการสวมใส่เพื่อป้องกันโรคแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากแนะนำในสถานการณ์การเกิดโรคระบาดเช่นนี้คือ การดูแลตนเองในเบื้องต้น เช่น การล้างมือบ่อยๆ การพกเจลแอลกอฮอล์เพื่อล้างมือ เวลาไปยังสถานที่ต่างๆ การเว้นระยะห่าง การทานอาหารที่สะอาด หลีกเลี่ยงการเข้าไปที่มีผู้คนแออัด เท่านี้ เราก็จะสามารถป้องกันตนเองจากโรคระบาดได้แบบเบื้องต้นแล้ว
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้จากข้อมูลด้านล่างนี้เลยหรือท่านใดต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายสามารถติดต่อเข้ามาสอบถามได้เช่นเดียวกันและถ้าท่านใดต้องการซื้อไปใช้เองสามารถซื้อได้ที่ Lazada และ Shopee หรือสั่งจากโรงงานโดยตรงได้เลย
📩 Email : info@cctgroup.co.th
📲 Line: Lakkana99
☎️เบอร์โทรศัพท์ : 081-6428556 (คุณลักขณา)
Facebook : https://www.facebook.com/cctmedical